ปิ๊กอัพ ALNICO คืออะไร?

ปิ๊กอัพ ALNICO คืออะไร?
มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์และความแตกต่าง ในส่วนประกอบของปิ๊กอัพที่สำคัญชนิดนี้กัน

​เวลาที่คุณจะซื้อกีต้าร์ซักตัว ไม่ว่าจะที่ร้านขายเครื่องดนตรีหรือออนไลน์ คุณมีโอกาสที่จะผ่านตากับคำว่าปิ๊กอัพอัลนิโค (Alnico) มันมีหมายความว่าอย่างไร ปิ๊กอัพอัลนิโคคืออะไร และมันมีคุณสมบัติอะไรที่ “ปิ๊กอัพแบบที่ไม่ใช่อัลนิโค” ไม่มี
เราจะเริ่มจากการอธิบายถึงคำว่าอัลนิโค (Alnico) กัน คำว่า Alnico ย่อมากจากตัวอักษรสองตัวแรกของส่วนประกอบของโลหะ 3 ชนิด นั่นคือ aluminum (อลูมิเนียม), nickel (นิกเกิล) และ cobalt (โคบอลต์).

สิ่งที่สองที่เราจะอธิบายถึงคือ อัลนิโคมีความพิเศษอย่างไร ในช่วงยุคต้นทศวรรษที่ 1930 ที่ประเทศญี่ปุ่น โลหะผสม (Alloys) ที่ประกอบด้วยเหล็ก นิกเกิล และอลูมิเนียม ได้ถูกค้นพบว่ามีความแข็งแกร่งเป็นสองเท่าของแม่เหล็กที่แข็งแรงที่สุดในเวลานั้น โดยโคบอลต์ได้ถูกค้นพบและเป็นส่วนผสมเพิ่มเติมในเวลาต่อมาเพราะว่าโคลบอลต์มีความต้านทานต่อการสึกกร่อนสูง

​โลหะผสมเหล็ก (Iron alloys) ที่มีส่วนผสมของอัลนิโคจะมีความต้านทานสูงต่อความร้อนและการสูญหายของอำนาจแม่เหล็ก  ดังนั้นจึงถูกใช้ในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่คงทน ในความเป็นจริงแล้ว ก่อนที่จะมีการพัฒนาการของแม่เหล็กแบบ “super” magnet (อาทิเช่น neodymium และ samarium-cobalt) ขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 แม่เหล็กอัลนิโคในขณะนั้นถือได้ว่าเป็นแม่เหล็กที่มีความแข็งแรงมากที่สุดเท่าที่จะหาได้ กับความสามารถที่จะสร้างกำลังที่ขั้วแม่เหล็กได้มากกว่า 3,000 เท่าของกำลังที่ได้จากสนามแม่เหล็กของโลก

สรุปคือ โลหะผสมอัลนิโคเป็นแม่เหล็กที่มีคงทนและแข็งแรงมากๆ
ปิ๊กอัพ ALNICO คืออะไร?
เนื่องจากความแข็งแรงและความคงทน โลหะผสมอัลนิโคได้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายกับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค เพราะว่าแม่เหล็กชนิดนี้มีคุณสมบัติที่มีความเป็นประโยชน์อย่างมาก อาทิเช่น สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า เซ็นเซอร์ ลำโพง และอื่นๆ

และได้ใช้กับปิ๊กอัพกีต้าร์ไฟฟ้าเช่นกัน โดยอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุด ปิ๊กอัพกีต้าร์ไฟฟ้าประกอบด้วยแม่เหล็กถาวร (permanent magnet) ที่พันด้วยขดลวด (coils) ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลที่แม่เหล็กคุณภาพสูงที่มีส่วนผสมของอัลนิโคเป็นส่วนประกอบจะส่งผลให้ได้ปิ๊กอัพกีต้าร์ที่มีคุณภาพสูงเช่นเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือปิ๊กอัพที่ให้เสียงที่อุ่น ลื่นไหลและมีความไพเราะเป็นอย่างมาก

​แน่นอนว่า Fender ได้เริ่มผลิตปิ๊กอัพด้วยแม่เหล็กอัลนิโคประมาณในช่วงยุคต้นถึงปลายทศวรรษที่ 1940 ในขณะนั้นอัลนิโคถือได้ว่าเป็นวัสุดที่ไฮเทค โดย Fender ได้ใช้อัลนิโคต่อเนื่องไปจนถึงช่วงทศวรรษ 1950 และ 1960 โดยในทางเทคนิคแม่เหล็กเซรามิก (ceramic magnet) จะมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยแม่เหล็กเซรามิกได้ครอบครองส่วนแบ่งในการใช้งานในเชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวางตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1960 เป็นต้นมา แต่สำหรับปิ๊กอัพกีต้าร์ที่ทำจากแม่เหล็กเซรามิกนั้นได้ถูกค้นพบว่าโดยภาพรวมเสียงที่ได้จะกระด้างกว่า เปราะบางกว่า และแหลมคมกว่าสียงที่ได้จากแม่เหล็กอัลนิโค มือกีต้าร์หลายๆ คนและผู้ผลิตหลายๆ บริษัท – รวมทั้ง Fender – ยังคงยึดติดอยู่กับเสียงที่กลม นุ่มนวล และหวานของปิ๊กอัพอัลนิโค โดยได้ใช้แม่เหล็กอัลนิโคจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
ปิ๊กอัพ ALNICO คืออะไร?
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องพบเจอขณะที่กำลังหาซื้อกีต้าร์ นั่นคือปิ๊กอัพอัลนิโคที่มีมาด้วยกันหลายชนิด โดยปกติแล้วจะตามด้วยเลขโรมัน – เช่น alnico II, alnico III และ alnico V (ถึงแม้ว่าบางครั้งคุณอาจจะเจอแบบที่เป็นเลขอารบิก 2,3 และ 5 ด้วยเช่นกัน)

ตัวเลขของอัลนิโคบ่งบอกถึงกำลังของสนามแม่เหล็กที่ถูกสร้างออกมา โดยมีตัวกำหนดคล้ายกับเป็น “สูตรผสม” ที่บ่งบอกถึงเปอร์เซนต์ของส่วนผสมที่แตกต่างกันที่อยู่ในโลหะผสมซึ่งแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ตัวเลขทั้ง 3 ตัวนั้นมีส่วนผสมที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ชนิดของแม่เหล็กอัลนิโคที่ใช้กับส่วนประกอบอื่นๆ อาทิเช่น ศิลปในการวางตำแหน่งปิ๊กอัพ จะส่งผลกระทบต่อเสียงของกีต้าร์ด้วยเช่นกัน

​มันยิ่งแปลกมากขึ้นไปอีกเมื่อตัวเลขอัลนิโคไม่ได้เพิ่มขึ้นไปตามกำลังของสนามแม่เหล็ก (เช่น II มีกำลังน้อยสุด, III มีกำลังอยู่ตรงกลาง, V มีกำลังมากสุด) ในทางตรงกันข้าม ลำดับของกำลังของสนามแม่เหล็กเป็นดังนี้ Alnico III มีกำลังแม่เหล็กน้อยที่สุด, Alnico II มีกำลังแม่เหล็กอยู่ตรงกลาง, Alnico V มีกำลังแม่เหล็กมากที่สุด
ปิ๊กอัพ ALNICO คืออะไร?

Alnico II

คุณจะเจออัลนิโค II ในกีต้าร์เทเลคาสเตอร์ยุคแรกๆ ในช่วงทศวรรษที่ 1950 ซึ่งดีมากๆ สำหรับปิ๊กอัพในตำแหน่งกลางที่ให้เสียงที่หวานและไพเราะกับโทนเสียงแบบ “vintage-y”

​Alnico III

มีกำลังน้อยที่สุดจากทั้ง 3 แบบ เพราะว่าไม่มีส่วนผสมของโคบอลต์ เนื่องจากมีแรงดึงของสนามแม่เหล็กน้อยที่สุด ส่งผลให้มีแรงต้านทานต่อการสั่นสะเทือนของสายน้อยที่สุด เหมาะกับปิ๊กอัพในตำแหน่งคอมากที่สุด (เพราะว่าสายกีต้าร์ในตำแหน่งคอมีการสั่นสะเทือนของสายมากที่สุด) เป็นแม่เหล็กชนิดที่ใช้ในกีต้าร์ทรง Stratocaster ในยุคเริ่มแรกช่วงกลางทศวรรษ 1950 และการใช้อัลนิโคชนิดนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมปิ๊กอัพในตำแหน่งคอถึงได้มีเสียงที่ดีและไพเราะมากๆ

​Alnico V

มีกำลังมากที่สุดจากทั้ง 3 แบบ ทั้งในทางโทนเสียงและการตอบสนอง เอาท์พุตที่มีพลังมากกว่าทำให้เหมาะกับปิ๊กอัพในตำแหน่งสะพานสายที่มีการสั่นสะเทือนของสายน้อยกว่า เหมาะสำหรับเสียงที่แรงและดุดัน