Kramer กีตาร์ไอคอนในยุค 80 ที่เป็นมากกว่า SuperStrat

Kramer กีตาร์ไอคอนในยุค 80 ที่เป็นมากกว่า SuperStrat

ทศวรรษที่ 1980 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในวงการเพลง จะเห็นได้ว่าคอมแพคดิสก์ หรือ แผ่นซีดี มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในการสร้างและทำการตลาดของดนตรี คลื่นลูกแรกของพังก์ออกมา และถูกแทนที่ด้วยแนวเพลงยุคใหม่ซึ่งมักจะมีซินธิไซเซอร์หรือเครื่องเทิร์นเทเบิลเป็นจุดศูนย์กลาง แต่อย่างไรก็ตาม กีตาร์ก็ยังคงมีอิทธิพลต่อวงการดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวงดนตรีฮาร์ดร็อคที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของทั้งการเล่นกีตาร์และแฟชั่น

ในบรรดากีตาร์ยุคใหม่ของสายร็อค มีแบรนด์หนึ่งที่เป็นผู้นำใน0ช่วงทศวรรษ 1980 นั่นคือ Kramer Guitars แม้ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับยุค 80 และแฮร์แบนด์ แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวของ Kramer Guitars เริ่มต้นในยุค 70 และเป็นกีตาร์ประเภทที่แตกต่างออกไปมาก

ย้อนกลับไปในปี 1974 Travis Bean, Marc McElwee และ Gary Kramer ร่วมกันก่อตั้ง Travis Bean Guitars เป็นกีตาร์คออะลูมิเนียมแหวกแนว ส่วนหัวของกีตาร์เป็นตัว T แบบกลวงอันเป็นเอกลักษณ์

ตามคำกล่าวของ Kramer ข้อตกลงทางธุรกิจกับ Travis Bean เริ่มมีเรื่องไม่ดีเมื่อเขายื่นขอสิทธิบัตรในชื่อของเขาเอง แทนที่จะเป็นชื่อบริษัท ความสัมพันธ์ทางธุรกิจตึงเครียดยิ่งขึ้น การพัฒนากีตาร์เริ่มถูกมองข้ามด้วยความหลงใหลครั้งใหม่ของ Bean นั่นคือการตีกลอง

Kramer กีตาร์ไอคอนในยุค 80 ที่เป็นมากกว่า SuperStrat

Kramer ตัดสินใจออกจาก Travis Bean ในปี 1976 เพื่อก่อตั้งบริษัทของตัวเองพร้อมกับ Dennis Berardi เพื่อนของ Bean จากนิวยอร์ก และนี่คือจุดกำเนิดของ Kramer Guitars

ต้นแบบของกีตาร์ Kramer ในระยะเริ่มแรก ถูกสร้างขึ้นโดยชายชื่อ Phillip J. Petillo ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบด้านตัวต้นแบบของ Travis Bean ด้วย โดยบริษัทมีนักลงทุนชื่อ Henry Vaccaro ซึ่ง0ต่อมาได้ขายหุ้นของเขาในบริษัทในปี 1993 ให้กับ Jackson Communications Inc.

ระหว่างปี 1976 ถึง 1981 กีตาร์ที่ผลิตภายใต้แบรนด์ Kramer มีความคล้ายคลึงอย่างมากกับกีตาร์ Travis Bean โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอที่ทำจากอะลูมิเนียมและการออกแบบส่วนหัวแบบส้อม แต่คอกีตาร์ของ Kramer แสดงให้เห็นความแตกต่างที่สำคัญ แทนที่จะสร้างจากอลูมิเนียมทั้งหมด คอกีตาร์ของ Kramer กลับใช้ไม้สอดเข้าไปในอลูมิเนียม การทำเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยเหตุผลสองประการ นั่นคือการลดน้ำหนัก และทำให้คอรู้สึกคล้ายกับคอกีตาร์แบบดั้งเดิมมากขึ้น รวมทั้งยังมีเรื่องของโทนเสียงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

Kramer กีตาร์ไอคอนในยุค 80 ที่เป็นมากกว่า SuperStrat

กีตาร์ชุดแรกที่ Kramer ผลิตออกมานั้นมีคอทำด้วยไม้และมีหัวกีตาร์รูปทรงแบบ Fender ในยุคนั้น (เช่นเดียวกับกีตาร์ Charvel ในยุคเดียวกัน) หลังจากที่ผลิตกีตาร์ออกมาได้ประมาณหนึ่งพันตัว ในเดือนพฤษภาคม ปี 1981 Kramer ได้รับคำสั่งให้หยุดผลิตและเลิกใช้รูปแบบหัวกีตาร์แบบ Fender ซึ่งจะทำให้ Kramer เปลี่ยนไปใช้หัวของกีตาร์แบบ "Beak"

ในช่วงเวลานั้นการผลิตส่วนประกอบของกีตาร์ถูกย้ายออกจากสหรัฐอเมริกา ทำให้ตัวบอดี้กีตาร์ถูกผลิตจากในโรงงานต่างๆ ในทวีปเอเชียตะวันออก ลูกบิดและชุดคันโยกก็ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Gotoh ในญี่ปุ่น และส่วนของคอก็ถูกสร้างขึ้นโดย ESP Guitar ของญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มผลิตชิ้นส่วนกีตาร์ทดแทนและนำเข้าไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาเดียวกัน พวกเขายังผลิตชิ้นส่วนกีตาร์ให้กับ Schecter ในยุคนั้นด้วย ชิ้นส่วนทั้งหมดถูกส่งไปยังนิวเจอร์ซีย์เพื่อการประกอบชิ้นส่วนให้ออกมาเป็นกีตาร์ที่สมบูรณ์

ทีมผู้บริหารของ Kramer ฉลาดพอที่จะมองเห็นกระแสที่กำลังก่อตัวขึ้นในวงการเพลง ซึ่งรวมถึง Eddie Van Halen ที่ขับเคลื่อนด้วยกีตาร์ที่มีระบบคันโยก Kramer ร่วมมือกับนักประดิษฐ์ชาวเยอรมันชื่อ Helmut Rockinger เพื่อสร้างระบบคันโยกสำหรับกีตาร์ของพวกเขา แต่หลังจากนั้นไม่นาน ในปี 1982 พวกเขาก็ร่วมมือกับ Floyd Rose เพื่อสร้างคันโยกด้วยเช่นกัน จนถึงในปี 1983 กีตาร์ที่ติดตั้งคันโยก Floyd Rose ก็ออกสู่ท้องตลาด

Kramer กีตาร์ไอคอนในยุค 80 ที่เป็นมากกว่า SuperStrat

Kramer ใช้ Schaller ในการผลิตลูกบิดกีตาร์ และพวกเขาก็จัดให้บริษัทนี้เริ่มผลิตคันโยก Floyd Rose ด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ Kramer เป็นบริษัทกีตาร์เพียงแห่งเดียวที่มีสต็อกคันโยก Floyd Rose ไว้สำหรับการผลิตกีตาร์ของตนในขณะนั้น ทำให้ในตอนนั้นพวกเขาได้เปรียบในเรื่องการทำการตลาดจาก EVH (Eddie Van Halen) เป็นอย่างมาก

ในช่วงปลายปี 1983 Kramer ได้เปลี่ยนการออกแบบส่วนหัวของพวกเขาอีกครั้งเป็นสไตล์ "hockey stick" ที่มีลักษณะคล้ายกับ Gibson Explorer ในช่วงเวลานี้ Kramer ออกมาพร้อมกับโมเดลใหม่ นั่นคือ Baretta ซึ่ง Eddie Van Halen ได้ใช้มันบนเวที ความร่วมมือระหว่าง EVH และ Kramer เกิดจากการพบกันโดยบังเอิญระหว่าง Dennis Berardi และผู้จัดการของ Eddie Van Halen บนเที่ยวบินเดียวกัน

Kramer กีตาร์ไอคอนในยุค 80 ที่เป็นมากกว่า SuperStrat

Kramer Guitar ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผสมผสานการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับความนิยมในเทคโนโลยี เช่น การเปิดตัวปิ๊กอัพ Seymour Duncan ในปลายปี 1985 และการนำสีสันฉูดฉาดในแนวดนตรี glam มาใช้เป็นสีกีตาร์ในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษที่ 80

หลังจากที่ Eddie Van Halen ได้ใช้กีตาร์ Kramer ก็มีมือกีตาร์ชื่อดังหลายคนที่ใช้ Kramer เช่น Mick Mars และ Vivian Campbell ทำให้ Kramer เข้าใจแนวโน้มของตลาดและพลังของผู้มีชื่อเสียง จึงรวมทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดในปี 1985 และ 1986

หลังจากบริษัท Gibson ได้เข้าซื้อกิจการของ Kramer กีตาร์ Kramer ก็ยังคงผลิตต่อไป แม้ว่าจะผลิตในโรงงานของ Gibson ในเอเชียด้วยจำนวนที่น้อยก็ตาม หลังจากปี 2018 เราจะเริ่มเห็นกีตาร์ Kramer มากยิ่งขึ้น ด้วยการฟื้นคืนชีพขึ้นมาของกีตาร์ Krarmer และด้วยคลั่งไคล้ของแบรนด์ ทำให้แบรนด์ Kramer มีอนาคตอันสดใสและยังเป็นที่นิยมมาจนถึงในยุคปัจจุบันนี้ บอกได้เลยว่า คุณภาพการใช้งาน, โทนเสียง และสัมผัสนั้น คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน